วันศุกร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2551

อาร์เซนอล 1 - ลิเวอร์พูล 1











ภาพเมื่อ อาร์เซนอล 1 - ลิเวอร์พูล 1

มาสเคออกปากขอโทษหลังโดนแบนยาว


ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ มิดฟิลด์ ลิเวอร์พูล ออกปากขอโทษทุกคน พร้อมรับเสียใจกับการกระทำของตัวเอง หลังต่อปากต่อคำผู้ตัดสินจนถูกไล่ออกในเกมพ่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-3 เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และโดนลงโทษแบนยาว 3 นัดเลยทีเดียว ชี้เป็นบทเรียนครั้งสำคัญ และให้คำมั่นว่าจะไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต
ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ กองกลาง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก ออกมากล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ 4 เมษายน ที่ผ่านมา ว่า เขาอยากขอโทษทุกคน และรู้สึกเสียใจกับการกระทำของตัวเอง หลังจากที่ต่อปากต่อคำกับผู้ตัดสิน สตีฟ เบนเน็ตต์ จนถูกไล่ออกจากสนามในเกมแดงเดือดที่ต้นสังกัดบุกพ่าย "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-3 ที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
มาสเคราโน่ ถูกสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) ลงโทษแบนทั้งสิ้น 3 นัด และถูกปรับเงิน 15,000 ปอนด์ (975,000 บาท) โทษฐานที่แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมจากการที่ไม่ยอมออกจากสนามแต่โดยดี หลังจากที่ถูกใบแดง ทำให้เขาต้องพลาดลงเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล ในเกมพรีเมียร์ลีก นัดเยือน "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล วันเสาร์นี้ รวมทั้งเกมฟาดแข้งกับ "กุหลาบไฟ" แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ในสัปดาห์หน้า หลังจากที่ชดใช้โทษแบนไปแล้ว 1 นัดในเกมกับ "ทอฟฟี่" เอฟเวอร์ตัน อย่างไรก็ตาม ล่าสุดดาวเตะทีมชาติอาร์เจนตินา ได้ออกมากล่าวขอโทษกับทุกคนแล้ว
"ผมอยากขอโทษทุกคน ผมทำผิดและเสียใจกับการกระทำนี้ มันเป็นความผิดของผม ผมไม่ใช่นักเตะสกปรก ผมไม่ได้แสดงความไม่เคารพต่อผู้ตัดสินเป็นประจำ ผมไม่ใช่คนแบบนั้น ผมคิดว่ามันเป็นเพราะความกดดันอย่างหนักในเกมกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ส่งผลให้ผมแสดงพฤติกรรมอย่างในวันนั้น มันไม่ใช่บุคลิกของผม แต่ผมก็ไม่อยากใช้เป็นข้ออ้าง"
"มันเป็นสิ่งเลวร้ายเมื่อคุณทำให้เพื่อนร่วมทีมผิดหวังและทิ้งพวกเขาให้เล่น 10 คน โดยเฉพาะในเกมกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พวกเขาให้การสนับสนุนเต็มที่ และรวมทั้งแฟนบอล ลิเวอร์พูล แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ความเจ็บปวดหายไป เมื่อมองย้อนกลับมายังเกมนั้น ผมประพฤติตัวไม่เหมาะสมกับผู้ตัดสิน ผมเดินเข้าไปพูดกับเขา แต่ผมเข้าใจว่ามันไม่ใช่ความคิดที่ดี"
"ผมแสดงท่าทางที่แย่มากเมื่อถูกใบแดง เพราะผมไม่เชื่อว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับผม ผมต้องเรียนรู้ แต่ก็ต้องก้าวต่อไปและลืมสิ่งที่เกิดขึ้น ผมหวังว่าผู้คนจะรู้ว่าผมพยายามเล่นแบบแฟร์ๆ และไม่คิดที่จะแสดงความก้าวร้าว ผมต้องมีสมาธิกับเกมและมุ่งมั่นกับแชมเปี้ยนส์ ลีก เรามีความสุขกับผลการแข่งขันที่ดีกับ อาร์เซน่อล และผมก็เฝ้ารอเกมนัดที่ 2"
"มันเป็นช่วงเวลาที่ผมต้องก้าวต่อไป แต่ก็ต้องไม่ลืมบทเรียนจากอดีตและแมตช์กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นอกสนามมันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับผม สถิติด้านระเบียบวินัยของผมดีมาตลอดจนถึงตอนนี้ แต่ผมก็ต้องแสดงสิ่งนั้นออกมาอีกครั้ง ผมพยายามให้ความเคารพกับคำตัดสินของผู้ตัดสินและนี่คือสิ่งสำคัญ" มาสเคราโน่ กล่าว

ราฟายกสตีวี่จีกุญแจสำคัญพาหงส์บินสูง


ราฟาเอล เบนิเตซ นายใหญ่ชาวสเปน ของ ลิเวอร์พูล ยกย่อง สตีเว่น เจอร์ราร์ด มิดฟิลด์จอมยิงไกล จะเป็นกุญแจสำคัญพา "หงส์แดง" ตะลุยผ่านเข้ารอบตัดเชือก แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ หลังโชว์ฟอร์มสุดยอดในเกมบุกเสมอ อาร์เซน่อล 1-1 วันพุธที่ผ่านมา
ราฟาเอล เบนิเตซ ผู้จัดการทีมจอมแท็กติก ของ ลิเวอร์พูล ยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก สรรเสริญผลงานของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด กองกลางกัปตันทีม ว่าทำผลงานได้อย่างสุดยอด ในเกมบุกเสมอ อาร์เซน่อล 1-1 เกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดแรก เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา พร้อมมั่นใจนักเตะจะเป็นกุญแจสำคัญที่นำทีมผ่านเข้าไปเล่นในรอบรองชนะเลิศ
อดีตนายใหญ่บาเลนเซีย กล่าวว่า "เมื่อคุณมีผู้เล่นระดับโลกมากมาย พวกเขาย่อมทำให้เกิดความแตกต่าง บางครั้งเป็น (เฟร์นานโด) ตอร์เรส และคราวนี้เป็น เจอร์ราร์ด เขาเป็นนักเตะที่สามารถเปลี่ยนเกมได้ด้วยตัวเอง และเขาทำให้เห็นแล้วจากจังหวะเลี้ยงบอลเข้าไปในเขตโทษ และสร้างโอกาสให้เราทำประตู"
"เขาเปลี่ยนแปลงเกม ประตูนั้นสร้างความแตกแต่งให้เรา นั่นเป็น 1 ในคุณภาพระดับโลก และเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่าง สตีเว่น สามารถอะไรได้หลายอย่าง มันเป็นการเลี้ยงลุยเข้าไปที่ไม่มีใครสามารถหยุดได้ และมันอาจจะเปลี่ยนแปลงเกมทั้งหมดก็ได้"
พร้อมกันนี้ ราฟา ยังกล่าวชื่นชมผลงานของลูกทีมทุกคนด้วยว่า "(เดิร์ก) เค้าท์ เล่นได้โดดเด่นจริงๆ เขาทำงานได้น่าเหลือเชื่อ และ ตอร์เรส ก็ด้วย บางครั้งเขาพยายามทำงานด้วยตัวเอง เมื่อ อาร์เซน่อล กดดันใส่คุณ บางครั้งมันก็เป็นงานหนักสำหรับกองหน้า เพราะพวกเขาจะไม่ค่อยได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนร่วมทีมมากนัก แต่ ไรอัล บาเบล ก็ทำงานหนัก และ เจอร์ราร์ด ก็มองหาจังหวะสวนกลับ และผ่านบอลที่ยอดเยี่ยมเสมอ"

ฮูเปียแอบเล็งเปิดแอนฟิลด์ทุบปืนลิ่วชปล.


ซามี่ ฮูเปีย เซนเตอร์ฮาล์ฟ "หงส์แดง" แอบเล็งเปิดรัง แอนฟิลด์ ทุบ "ไอ้ปืนใหญ่" กระบอกแตก ฉลุยตัดเชือก แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังบุกไล่เจ๊า 1-1 ในนัดแรกรอบ 8 ทีมสุดท้าย แต่ไม่วายยอมรับมองข้ามชอตยังไม่ได้ เหตุยังมีเกม พรีเมียร์ลีก คั่นกลางศึกไตรภาคระหว่างทั้งสองทีม ประกาศก้องต้องเก็บแต้มจากถิ่น อาร์เซน่อล ให้จงได้
ซามี่ ฮูเปีย กองหลัง ลิเวอร์พูล ยักษ์ใหญ่ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มองไกลไปถึงรอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่บุกไปควักผลเสมอ 1-1 ออกมาจากรัง เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ได้สำเร็จในเกมรอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก เมื่อคืนวันพุธที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา ด้วยผลงานการยิงประตูตีเสมอของ เดิร์ค เค้าท์ กองหน้าดัตช์แมน หลังจากที่เสียท่าโดน เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ หัวหอกโตโก โขกพังประตูได้ไปก่อน
ฮูเปีย กล่าวว่า "แน่นอนเลยว่าประตูเกมเยือนที่เราทำได้ที่นี่เป็นอะไรที่ดีเยี่ยมมากๆ แถมยังได้ผลเสมอกลับออกมาอีก ดังนั้น ถ้าเราชนะได้ที่ แอนฟิลด์ เราก็จะได้ผ่านเข้ารอบต่อไป มันน่าผิดหวังอยู่บ้างที่เสียประตูจากลูกเตะมุม ผมคิดว่าผมทำพลาดนิดหน่อย ผมควรจะขยับเข้าไปใกล้ๆ อเดบายอร์ ให้มากกว่านี้ และน่าจะผลักเขาสักนิดหนึ่งเพื่อไม่ให้เขาโหม่งได้ถนัด"
"เขากระโดดได้สูงทีเดียว และผมก็ไม่ได้คาดคิดเอาไว้ก่อนเลยว่าเขาจะเข้าถึงบอลได้แบบนี้ ดังนั้น มันก็เลยดีมากๆ ที่ยิงประตูตีเสมอได้สำเร็จเพียงแค่ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น แล้วเกมก็เปิดขึ้นมาอีกครั้งจนได้ ประตูนั้นแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเรา เรารู้ว่ายังมีอีกเกมให้ลงเล่น ดังนั้น มันจึงสำคัญยิ่งที่ยิงได้"
"เราต้องเดินหน้าต่อไป เพราะเราต้องการประตูนั้น และ เดิร์ค ก็ทำได้ดีจริงๆ ที่ยิงเข้าไปจนได้ หลังจากที่ สตี วี่ (สตีเว่น เจอร์ราร์ด) พาบอลบุกเข้าไปได้เยี่ยมมากๆ บางทีครึ่งหลังเราอาจจะตั้งรับมากไปหน่อย และเราก็ไม่อาจจะครองบอลเพื่อเปิดเกมรุกสวนกลับได้มากเท่าไหร่ แต่ อาร์เซน่อล คือโคตรทีม และพวกเขาก็บีบเราให้ถอยลงไปตั้งรับตลอดครึ่งหลัง"
อย่างไรก็ตาม แม้เซนเตอร์แบ็กชาวฟินแลนด์จะเชื่อว่าประตูเยือนนั้นสำคัญ แต่ก็ยืนยันว่าไม่ได้มองข้ามชอตไปถึงเกมนัดที่ 2 ในวันอังคารที่ 8 เม.ย.นี้ ที่สนาม แอนฟิลด์ หากแต่กำลังมุ่งมั่นอยู่กับนัดถัดไปที่จะต้องเจอกันในศึก พรีเมียร์ลีก วันเสาร์ที่ 5 เม.ย.นี้ ที่สนาม เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
"เรารู้ว่านัดที่ 2 กำลังจะมาถึงและประตูเดียวของเราก็มีความหมายมากๆ แม้พวกเขาจะยิงประตูที่ 2 ได้ก็ตาม มันน่าสนใจมาก แต่ยังมีเกมสำคัญอีกเกมก่อนนัดนั้นในวันเสาร์นี้ ทั้งสองทีมต่างก็ต้องการคะแนนในเวที พรีเมียร์ลีก ด้วยกันทั้งคู่ ดังนั้น คงต้องเน้นเกมนี้กันก่อนที่จะเริ่มคิดถึงเกมวันอังคารกันต่อไป" ฮูเปีย ทิ้งท้าย

ราฟารีบปัดหงส์ไม่เป็นต่อชี้ประมาทปืนหายนะชัวร์


ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือ "หงส์แดง" รีบปฏิเสธเป็นต่อ "ไอ้ปืนใหญ่" บานตะไท ฉลุยตัดเชือก แชมเปี้ยนส์ ลีก แน่แล้ว หลังบุกไปซัดประตูเยือนในเกมแรกรอบ 8 ทีมสุดท้าย บอกคิดอย่างนั้นไม่ได้เด็ดขาด เหตุดวลเกือกกับโคตรทีมอย่าง อาร์เซน่อล ประมาทไม่ได้ทุกนาที พร้อมหนุนกรรมการตัดสินถูกต้องไม่เป่าจุดโทษให้คู่แข่งจากจังหวะ เดิร์ค เค้าท์ ไปดึง อเล็กซานเดอร์ คเล็บ จนหน้าทิ่มในเขตโทษ
ราฟาเอล เบนิเตซ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไม่ขอยอมรับว่าทีมของตนเป็นต่อ อาร์เซน่อล อย่างขาดลอยในการทำศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดสอง ในวันอังคารที่ 8 เม.ย.นี้ ที่สนาม แอนฟิลด์ หลังจากที่บุกไปเสมอ 1-1 ในนัดแรก ที่สนาม เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เมื่อวันพุธที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากตุนประตูทีมเยือนเอาไว้ก่อนแล้ว
เบนิเตซ กล่าวว่า "ผมไม่คิดเลยว่าเราจะเป็นต่อบานเบอะ เมื่อคุณเล่นกับ อาร์เซน่อล คุณย่อมรู้ดีว่าพวกเขายิงประตูได้ในทุกสนาม ใช่เลยที่เรากำลังจะได้ลงเล่นใน แอนฟิลด์ แถมแฟนบอลของเรายังสร้างความแตกต่างได้อย่างมากมายมหาศาล แต่เรากำลังจะลงเล่นกับทีมที่ดีมากๆ ทีมหนึ่ง ซึ่งคุณจะเห็นได้เลยว่าคุณภาพของพวกเขามีอยู่มากมายแค่ไหนจากเกมในคืนนี้ (วันพุธ) พวกเขามีโอกาสเหลือเฟือเลยทีเดียว ดังนั้น เราก็เลยต้องเล่นแบบรอจังหวะโต้กลับ และต้องทำงานอย่างหนักในแนวรับ"
"เมื่อคุณเล่นกับ อาร์เซน่อล แถมยังเสียประตูไปก่อน มันย่อมเป็นอะไรที่ยากลำบากมากๆ ถ้าหากคุณไม่อาจตีเสมอได้อย่างรวดเร็ว หลังจากที่พวกเขาได้บุกอย่างต่อเนื่อง และถ้าคุณพลาดท่า มันก็จะกลายเป็นตามหลัง 0-2 ทันที ดังนั้น มันจึงสำคัญยิ่งสำหรับเราที่จะต้องยิงประตูคืนให้ได้ไวๆ"
"ประตูเยือนสำคัญเสมอ และเกมที่ แอนฟิลด์ จะช่วยให้เราได้เปรียบ เรารู้ว่าถ้าเรายิงประตูได้ก่อน มันย่อมจะเป็นความยากลำบากสำหรับพวกเขา ดังนั้น มันจึงเป็นสถานการณ์ที่ดีสำหรับเราแล้ว"
ส่วนกรณีที่ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ "ไอ้ปืนใหญ่" ยืนกรานว่าทีมของตนสมควรจะได้ลูกจุดโทษจากจังหวะที่ เดิร์ค เค้าท์ กองหน้า "หงส์แดง" ไปดึง อเล็กซานเดอร์ คเล็บ มิดฟิลด์ตัวรุก "เดอะ กันเนอร์ส" จนล้มคะมำในกรอบเขตโทษ แต่กรรมการกลับไม่ยอมเป่าให้เป็นลูกจุดโทษนั้น นายใหญ่ชาวสเปนเชื่อว่าเป็นการตัดสินที่ถูกต้องแล้ว
"ผมเห็นจังหวะนั้นจากภาพช้าในเทปโทรทัศน์แล้ว และผมก็คิดว่ามันไม่ชัดเจนเลย หากเป็นเกมในอังกฤษมันต้องไม่ใช่จุดโทษแน่ๆ อย่างไรก็ตาม เค้าท์ เป็น "แมน ออฟ เดอะ แมตช์" ในนัดนี้ เขาช่วยทีมได้มากจริงๆ" "ราฟา" ทิ้งท้าย