วันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

จากพี่ถึงน้อง...



ลิเวอร์พูล ในฤดูกาล 2007-2008 อาจจะประสบความสำเร็จในแง่ของการซื้อนักเตะ เนื่องจากแค่ฤดูกาลแรกที่ เฟร์นานโด ตอร์เรส ดาวยิงชาวสแปนิช ลงเล่นในลีกลูกหนังเมืองผู้ดี เจ้าตัวก็ทำลายสถิติเป็นว่าเล่น อาทิ เป็นนักเตะหน้าใหม่ที่ยิงประตูได้มากที่สุด (24 ลูก) ทำลายสถิตเดิมของ รุด ฟาน นิสเตลรอย กองหน้า เรอัล มาดริด, เป็นนัก เตะที่สามารถยิงแฮตทริกได้ 2 นัดซ้อนในการลงเล่นในถิ่น แอนฟิลด์ อีกทั้งยังสามารถยิงประตูนัดเหย้าได้อีก 7 นัดติดต่อกัน
แต่ทว่าหากมองในเรื่องของการคว้าแชมป์ "หงส์แดง" จำเป็นต้องร้องเพลงรอต่อไปอีกปี เนื่องจากพวกเขาคว้าน้ำเหลวเหมือนที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม สตีเว่น เจอร์ราร์ด กองกลางกัปตันทีม ยังคงมองโลกในแง่ดีสุดขีด เจ้าตัวบอกว่า หาก ตอร์เรส และ ไรอัน บาเบิล หัวหอกดาวโรจน์ชาวดัตช์ ยังคงรักษามาตรฐาน การเล่นไว้ได้เหมือนเดิมแล้วล่ะก็ พวกเขาก็มีโอกาสคว้าแชมป์ลีกเป็นครั้งแรกในรอบ 18 ปีได้เหมือนกัน
คุณมีอะไรอยากจะกล่าวถึง เฟร์นานโด ตอร์เรส นักเตะยอดเยี่ยมประจำสโมสรไหม?
สตีวี่จี่ - ผมดีใจที่ได้เล่นร่วมกับเขา มันเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากที่เขาอยู่กับสโมสรแห่งนี้ และเขาก็คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสรมา ครองได้สำเร็จ การเคลื่อนที่ รวมถึงการวิ่งของเขาสุดยอดมาก หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเขาจะรักษาสิ่งนี้ในฤดูกาลถัดไป
นอกเหนือจาก 33 ประตูของ ตอร์เรส คุณคิดว่าแฟนบอลชอบเขาที่ตรงไหนอีก?
สตีวี่จี่ - สิ่งที่ทำให้ผมชื่นชอบบเขานอกเหนือจากการทำประตูแล้วนั่นก็คือลูกขยันของเขา รวมถึงเรื่องที่เขามีความกระตือรือร้นมากขนาดไหน โดย ปกติแล้วตอนที่คุณดึงนักเตะต่างชาติมาร่วมทีม มันย่อมมีความกังวลใจเกี่ยวกับเรื่องที่ว่านักเตะเหล่านั้นจะรับมือกับทีมในพรีเมียร์ลีกที่ชอบใช้ร่างกายเข้าปะทะได้หรือไม่ รวมถึงนักเตะเหล่านั้น จะต้องใช้เวลาปรับตัวนานขนาดไหนกัน อย่างไรก็ตามจากเกมแรกที่พบกับ เชลซี เขาวิ่งพล่านไปทั่วแดนหลังของฝั่งตรงข้าม ซึ่งสร้างความลำบากใจให้กับพวกเขามากพอดู หากเขาถูกเตะเขา ก็จะรีบลุกขึ้นทันที เขารักมัน นี่เป็นสิ่งที่ผมชอบมากที่สุด เพราะผมคาดหวังเขาอยู่ตลอดเวลาว่าเขาจะต้องยิงประตูได้
ครับ เขาไม่ใช่นักเตะจำพวกขี้พุ่ง คุณแทบไม่เคยเห็นเขาพุ่งล้มเลยใช่ไหม?
สตีวี่จี่ - เขาเป็นเด็กหนุ่มที่มีพละกำลังมหาศาล เขาแทบจะไม่ล้มเลย เขาแข็งแกร่งแถมยังมีบุคลิกที่ยอดเยี่ยมอีกต่างหาก หนำซ้ำยังทำงานหนักเพื่อทีม อีกด้วย เขาเป็นการซื้อที่ยอดเยี่ยมกว่าครั้งไหนๆ
แล้วเรื่องที่ ไรอัน บาเบล ซิวรางวัลนักเตะดาวรุ่งแห่งปีของสโมสร คุณมีอะไรจะพูดถึงเขาไหม?
สตีวี่จี่ - มันเป็นเรื่องที่ดี เขาเป็นนักเตะดาวรุ่ง และเขาก็สร้างความแตกต่างครั้งใหญ่ยามที่ถูกส่งลงมาจากม้านั่งข้างสนาม แถมเขายังทำผลงานได้ดี ในบางเกมที่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงอีกต่างหากเขาเป็นนักเตะแห่งอนาคต หากเขามีมุ่งมั่นที่จะเรียนรู้ต่อไปแล้วล่ะก็ เวลานั้นเขามีนักเตะที่เป็นแบบอย่างที่ยืนอยู่ข้างๆ เขา และพร้อมจะช่วยพัฒนา เกมการเล่นของเขา ทุกอย่างขึ้นอยู่กับ ไรอัน รวมถึงขึ้นอยู่กับว่าเาต้องการพัฒนาเกมการเล่นของตัวเขาเองให้ขึ้นไปอยู่ในอีกระดับมากขนาดไหน เพราะแน่นอนอยู่แล้วว่าเขามีคุณสมบัติพร้อม ทุกด้าน
จริงหรือเปล่าที่ ไรอัน ยังสามารถทำอะไรได้อีกตั้งเยอะ?
สตีวี่จี่ - ไรอัน มีศักยภาพอย่างไม่ต้องสงสัย เขาแข็งแกร่ง, รวดเร็ว, สามารถสร้างโอกาสยิงประตูได้เอง และก็สามารถยิงประตูได้ด้วย เขาทำได้ ทุกอย่าง ผมเคยเห็นเรื่องทำนองนี้ในนักเตะหลายคนมาแล้ว ในตอนที่พวกเขามีศักยภาพอย่างนี้ แต่ไม่สามารถพัฒนาขึ้นไปในอีกระดับหนึ่งได้ มันขึ้นอยู่กับ ไรอัน ว่าเขาต้องการเป็นหนึ่งในนัก เตะชั้นนำมากขนาดไหน เพราะแน่นอนอยู่แล้วเขามีคุณสมบัติพร้อมทุกประการ
หงส์ทอง

ราฟาชี้หงส์ต้องทุ่มหากหวังแชมป์


ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือ ลิเวอร์พูล กระตุ้นสโมสรทุ่มเงินซื้อนักเตะเข้ามาเสริมทัพอีก หากหวังคว้าแชมป์ในฤดูกาลหน้า ชี้ขนาด เชลซี ยังควักไปกว่า 1 พันล้านบาท เพื่อแบ็กขวาตัวใหม่คนเดียว พร้อมรับการขาด ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ ทำให้ทีมมีปัญหาในแนวรับเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา
ราฟาเอล เบนิเตซ ผู้จัดการทีม "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก ออกมายอมรับว่า สโมสรจำเป็นต้องใช้เงินซื้อนักเตะหน้าใหม่เข้ามาเสริมความแข็งแกร่งในช่วงซัมเมอร์นี้ หากต้องการจะคว้าแชมป์ในฤดูกาลหน้า หลังวืดแชมป์ไปหมดในซีซั่นที่ผ่านมา
กุนซือชาวสเปน กล่าวผ่านเว็บไซต์ของสโมสรว่า "ทุกๆ ปีคุณต้องพัฒนาอะไรหลายอย่าง เพราะทีมอื่นก็ต้องทำแบบเดียวกัน ผมคิดว่า เชลซีเพิ่งทุ่มเงิน 16 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,008 ล้านบาท) ไปกับผู้เล่นตำแหน่งแบ็กขวา (โชเซ่ โบซิงวา) แม้ว่าพวกเขาเพิ่งจะผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็ตาม ปีนี้พวกเราพัฒนาขึ้นมาก เราเซ็นสัญญากับนักเตะที่ดี 2 หรือ 3 คนรวมถึงมีนักเตะที่ดีอยู่แล้วด้วย"
นอกจากนี้ อดีตเทรนเนอร์ บาเลนเซีย ยังยอมรับว่า การที่ ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ ปราการหลังทีมชาติเดนมาร์ก ได้รับบาดเจ็บกระดูกเท้าแตก จนต้องพักยาวไปตั้งแต่เดือน ก.ย. ปีก่อนและไม่สามารถกลับมาลงสนามช่วยทีมได้อีกเลยถือเป็นความเสียหายครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในฤดูกาลที่ผ่านมา
"ทีมเรามีนักเตะที่ดีกว่าเดิม เรามีทีมที่ดีกว่าเดิมด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นักเตะมีความเข้าใจกันดีมากในช่วง 3 เดือนสุดท้าย เราชนะและยิงประตูได้มาก เราเกือบเข้าชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ปีนี้เราพัฒนาขึ้นมาก เราเซ็นสัญญานักเตะที่ดี 2-3 คน แต่การขาดแคลนกองหลังส่งผลร้ายต่อเรา เจมี่ คาร์ราเกอร์ กับ ซามี่ ฮูเปีย ต้องลงเล่นมากเกินไป ทำให้เราคิดถึงแอ็กเกอร์"
"เราต้องเผชิญกับฤดูกาลที่ยากลำบาก ซึ่งมีความพิเศษและแตกต่าง แต่ในที่สุดเราก็พยายามรับมือกับมันให้ได้ มันไม่ใช่ฤดูกาลที่สมบูรณ์แบบ เพราะคุณย่อมต้องการคว้าแชมป์ให้ได้ แต่มันก็ไม่ได้เลวร้าย เนื่องจาก เราอยู่ใน 4 อันดับแรกทั้ง พรีเมียร์ลีก และฟุตบอลยุโรป แม้มันไม่เยี่ยมที่สุด แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายหรอก" นายใหญ่ถิ่น แอนฟิลด์ กล่าวในที่สุด