วันจันทร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2551

วิพากษ์ศึกชี้ชะตา สิงห์บลูส์ Vs. หงส์แดง



ไม่ว่าบทสรุปของเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ ระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ เชลซี ที่สนาม แอนฟิลด์ ในวันพุธที่ 30 เม.ย.นี้ จะออกมาเป็นอย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่เราไม่น่าจะได้เห็นในเกมที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ค่อนข้างแน่คือการยิงประตูกันแบบถล่มทลายจากทั้ง 2 ทีม
เกม 7 นัดหลังสุดที่ 2 ทีมยักษ์ใหญ่แห่งพรีเมียร์ลีกคู่นี้เจอกัน มีประตูเฉลี่ยเพียงเกมละ 0.7 ประตูเท่านั้น โดย มาร์ค ลอว์เรนสัน อดีตปราการหลังจอมแกร่งของ "หงส์แดง" ก็คิดว่าเกมในวันพุธนี้ก็น่าจะเป็นไปในรูปแบบเดิมอีกคำรบ นั่นคือทั้งคู่คงทะลวงตาข่ายกันได้จุ๋มจิ๋มเช่นเคย
"เชลซี กับ ลิเวอร์พูล ต่างก็เล่นได้เหนียวแน่นพอๆกัน เกมในนัดแรกที่ผ่านมาน่าจะเป็นเกมที่ทั้ง 2 ฝ่ายมีโอกาสยิงประตูกันมากที่สุดแล้วในรอบหลายๆนัดหลังที่ทั้งคู่ดวลกัน แต่มันก็ยังมีโอกาสไม่มากเท่าที่ควรอยู่ดี ผมคิดว่าผู้ชนะในเกมนี้น่าจะเป็นทีมที่ก่อความผิดพลาดน้อยกว่าคู่ต่อสู้" ลอว์โร่ ว่าเอาไว้อย่างนั้น
สำหรับผลเสมอ 1-1 ในศึกชิงตั๋วไปมอสโกยกแรกที่ แอนฟิลด์ เมื่อวันอังคารที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมานั้น ถือเป็นเกมที่มีประตูมากที่สุดในเกมที่ทั้งคู่เจอกันในถ้วยใบใหญ่สุดของยุโรป โดย 6 เกมก่อนหน้านี้มีประตูให้แฟนบอลได้เฮกันชนิดจุ๋มจิ๋มแค่ 3 ลูกเท่านั้น และ ลอว์เรนสัน ซึ่งเคยคว้าแชมป์ถ้วยนี้กับ "หงส์แดง" มาแล้วเมื่อปี 1984 ก็ให้ความเห็นว่า มันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะต้องบอกว่า สไตล์การเล่นแบบรัดกุมของทั้ง 2 ทีม มีผลมาจากทัศนคติของผู้จัดการทีมของทั้งคู่นั่นเอง
"ถ้าคุณลองดูผู้จัดการทีมทั้ง 2 คน ทั้ง ราฟาเอล เบนิเตซ และ อัฟราม แกรนท์ ต่างมีปรัชญาในเกมฟุตบอลที่เน้นความแน่นอนด้วยกันทั้งคู่ คุณอาจจะเป็นผู้จัดการทีมที่ชื่นชอบการเล่นเกมรุกเป็นชีวิตจิตใจ หรืออาจจะเป็นพวกที่ชอบการเน้นตั้งรับไว้ก่อนก็เป็นได้ แต่ดูเหมือนว่าทั้งคู่จะเป็นอย่างหลังมากกว่า"
จากการที่เสียประตูตีเสมอ 1-1 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของเกมนัดแรก ส่งผลให้ในเกมนี้ ขุนพล "หงส์แดง" ต้องบุกไปยิงประตูให้ได้ในสนามที่พวกเขาคลำเป้าไม่เจอมา 8 นัดติดต่อกันเข้าให้แล้วในยุคของกุนซือเลือดกระทิงดุ อย่างไรก็ตาม ลอว์เรนสัน เชื่อว่ายอดทีมจากเมอร์ซี่ย์ไซด์น่าจะทำได้สำเร็จ "ผมคิดว่าเกมที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ น่าจะจบลงที่สกอร์ 1-1 นะ ผมไม่ได้เข้าข้าง ลิเวอร์พูล แต่พักหลังๆนี้ เชลซี เล่นได้ไม่ค่อยดีนัก ผมคิดว่า ลิเวอร์พูล น่าจะยิงประตูได้"
ลอว์เรนสัน ไม่ใช่คนเดียวที่คิดว่า ลิเวอร์พูล จะเล่นเกมรุกได้ดีขึ้นในการลงเล่นที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ แพท เนวิน อดีตปีกตัวกลั่นของ เชลซี ก็คิดแบบนั้นเช่นกัน โดยอดีตดาวเตะ "สิงโตน้ำเงินคราม" คาดหวังว่าเกมนัดนี้จะดุเดือดกว่าเกมที่ทั้งคู่พบกันในลีกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งลงเอยด้วยการเสมอกันไปแบบไร้สกอร์
"ผมอยู่ในสนามด้วย ในเกมล่าสุดที่ เชลซี กับ ลิเวอร์พูล พบกันที่ เดอะ บริดจ์ และผมก็ตื่นอยู่ตลอดทั้งเกมเลย" เนวิน ยิงมุกนำร่อง "มันเป็นเกมที่น่าเบื่อที่สุดเกมหนึ่งที่ผมเคยดูมาเลย นักเตะ 2 คนที่ดีที่สุดในเกมนั้นคือมิดฟิลด์ตัวกลาง 2 คน แต่เกมนั้นมันจะไม่เหมือนเกมนัดนี้แน่ เพราะ ลิเวอร์พูล มีภารกิจที่จะต้องทำประตูให้ได้"
เนวิน ซึ่งค้าแข้งอยู่กับ เชลซี อยู่ 5 ปี ในช่วงทศวรรษที่ 1980 มองว่ายอดทีมแห่งกรุงลอนดอนมีภาษีดีกว่าเล็กน้อยในการผ่านเข้าไปเล่นในนัดชิงชนะเลิศที่กรุงมอสโก เมื่อประเมินจากเกมรับอันแข็งแกร่งของพวกเขา โดยชี้ว่าปีเตอร์ เช็ก ผู้รักษาประตูจอมหนึบ และ ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟจอมแกร่งคือกุญแจสำคัญ หลังจากที่ทั้งคู่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมนัดแรกที่ แอนฟิลด์ เมื่อสัปดาห์ก่อน โดยนายทวารทีมชาติสาธารณรัฐเช็กสามารถเซฟลูกยิงของ เฟร์นานโด ตอร์เรส กับ สตีเว่น เจอร์ราร์ด เอาไว้ได้ ขณะที่ปราการหลังทีมชาติโปรตุเกสเองก็ขันน็อตในแนวรับให้กับ "สิงห์บลูส์" ได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นกัน
"ผมคิดว่า เชลซี น่าจะได้ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศ เพราะ เช็ก ฟิตพร้อมลงสนาม เช่นเดียวกับ คาร์วัลโญ่ กองหลังที่ดีที่สุดในโลกของผมในเวลานี้ก็คือ คาร์วัลโญ่ เขาอ่านเกมได้เฉียบขาด เสียบสกัดได้แน่นอน และมีจังหวะการเข้าบอลที่ดีอย่างน่าอัศจรรย์ ผมจำได้ถึงเกมที่ แอนฟิลด์ ที่เขามาช่วยซ้อน จอห์น เทอร์รี่ เอาไว้ได้ถึง 2 ครั้ง 2 ครา คุณไม่รู้หรอกว่าเขาเร็วขนาดไหน เขาเป็นกองหลังที่ครบเครื่องอย่างแท้จริง การที่พวกเขามีเกมรับที่แข็งแกร่ง และการได้ มิชาเอล เอสเซียง พ้นโทษแบนกลับมาช่วยทีมได้นั้น มันหมายความว่า เชลซี มีโอกาสที่ดีมากๆในการคว้าตั๋วไปตะลุย มอสโก" อดีตปีกจรวด "สิงห์บลูส์" ทิ้งท้าย
ซำเหมาขี่เก๋ง

ไม่มีความคิดเห็น: