วันพุธที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2551

หงส์ลิ่วเชือดปืนเดือด4-2ตัดสิงห์ที่ทุบเฟเนร์ฯ2-0


หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ยังคงโชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอด ในศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อเป็นฝ่ายเปิดสนามแอนด์ฟิลด์เอาชนะ อาร์เซน่อล ไปได้ 4-2 รวมผลสองนัดเข้ารอบด้วยประตูรวม 5-3 พร้อมทะยานเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ได้เป็นครั้งที่ 3 ในรอบสี่ปีหลัง โดยจะเข้าไปพบกับ "สิงห์บูลส์" เชลซี ที่เปิดบ้านบดเอาชนะ เฟเนร์บาห์เช่ ทีมเก่งจากตุรกีไปไม่ยาก 2-0 เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา


ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
รอบก่อนรองชนะเลิศ (นัดสอง)
วันอังคารที่ 8 เม.ย.51
ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) 4 - 2 อาร์เซน่อล (อังกฤษ)
(รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล ชนะ 5-3)
สนาม : แอนฟิลด์
ผู้ชม : 45,000 คน
เกมที่แอนฟิลด์ สองทีมดังของเมืองผู้ดีถึงคราวต้องทำศึกนัดแตกหักหลังเจ๊ากันมาในนัดแรก 1-1 โดยลิเวอร์พูลหันมาเน้นรุกเต็มสูบปรับมาเล่นในระบบ 4-4-2 ใช้งานสตีเว่น เจอร์ราร์ดเป็นปีกซ้ายให้ปีเตอร์ เคราช์ลงบู๊เป็นตัวจริงคู่กับเฟร์นานโด ตอร์เรส
ส่วนอาร์เซน่อลจัดให้โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ที่ต้องเช็คความฟิตเป็นเพียงตัวสำรองส่งอเล็กซานเดอร์ คเล็บรับบทหน้าต่ำช่วยงานเอ็มมานูเอล อเดบายอร์ในแดนหน้า
หลังจากมีการยืนไว้อาลัยให้กับมาติเยอ สเปรงเกอร์สประธานสหพันธ์ฟุตบอลฮอลแลนด์และผู้บริหารระดับสูงของยูฟ่าที่เสียชีวิตเมื่อวันอาทิตย์ เกมก็เริ่มขึ้นโดยอาร์เซน่อลเป็นฝ่าย เขี่ยบอลก่อนพร้อมทั้งบุกขึ้นหน้าสร้างความหวาดเสียวให้กับเดอะ ค็อปตั้งแต่หัววัน
และในที่สุดนาทีที่ 13 ปืนโตก็ระเบิดกระสุนได้จากการทำเกมรุกที่สุดยอด ถ่ายบอลกันเป็นทอดๆกระทั่งเคล็บแทงบอลเข้าเขตโทษด้านขวาให้อาบู ดิยาบี้วิ่งสอดเข้าไปหนีชาบี อลอน โซได้ก่อนจะตะบันมุมแคบระยะแปดหลายัดไส้ทะลุการปิดมุมของโฆเซ่ เรน่าตุงตาข่ายพาทีมเมืองหลวงนำไปก่อนอย่างเร็วจี๋ 1-0
พอเสียความบริสุทธิ์ เจ้าถิ่นจึงเดินเกมสู้ และนาทีที่ 17 ฟิลิป เซ็นเดรอสก็ถูกจดชื่อในจังหวะฟาล์วใส่เจอร์ราร์ด ถัดจากนั้นเกมก็ออกรูปสูสี แต่ไม่มีจังหวะทำอะไรกันมาก นัก
กระทั่งนาทีที่ 31 จากลูกโยนทางกราบซ้ายของฟาบิโอ ออเรลิโอที่แฉลบโคโล่ ตูเร่ออกหลังเป็นลูกเตะมุมอีกฟาก เร้ดแมชีนก็ทวงสกอร์คืนมาจากลูกโหม่งระยะไกล 16 หลาของซามี่ ฮู เปียซึ่งเซ็นเดรอสเข้าประกบช้าบอลจึงลอยย้อนศรชนเสาไกลตุงตาข่ายชนิดเชส ฟาเบรกาสที่ยืนคุมเสากระโดดโขกสกัดไม่ถึงทำให้ลิเวอร์พูลตีเสมอเป็น 1-1
เกมยังผลัดกันรุกรับอย่างสนุกเร้าใจ แต่ถึงนาทีที่ 39 มาติเยอ ฟลามินี่ก็เกิดเจ็บขึ้นมาในจังหวะวิ่งเบียดไปกับเจอร์ราร์ดแล้วกลับมาเล่นต่อไม่ไหว ท็อปกันจึงต้องส่งจิลแบร์โต้ ซิ ลวาลงไปแทนในอีกสามนาทีให้หลัง ก่อนที่เกมในครึ่งแรกจะสิ้นสุดลงไปด้วยผลลัพธ์ 1-1
เริ่มครึ่งหลังยังไม่ครบนาทีดี หงส์แดงก็มีเสียวเมื่อชาบี้ อลอนโซ่กระดกบอลจากหน้าเขตโทษเข้าไปให้เคราช์ซัลโวระยะ 16 หลา แต่ไม่แรงพอที่จะผ่านจังหวะทิ้งตัวตะครุบของมานูเอล อัลมูเนียไปได้
เจ้าบ้านยังทำเกมกดดันอาคันตุกะต่อ และนาทีที่ 53 ตอร์เรสก็เลื้อยขึ้นกราบขวาไปจ่ายบอลเข้าเขตโทษโดนวิลเลี่ยม กัลลาสเคลียร์ออกมา ออเรลิโอจึงกระทุ้งสวนเข้าไปแล้วเกือบดีกระทบเคราช์ที่ยืนอยู่แถวจุดเตะลูกโทษเปลี่ยนทิศหลุดกรอบไปอย่างหวุดหวิด
ลิเวอร์พูลคุมสถานการณ์เอาไว้ได้อย่างเด็ดขาดแล้ว แต่นาทีที่ 59 ปืนโตโต้ขึ้นมาได้เยี่ยมโดยกาแอล กลิชี่บุกขึ้นฝั่งซ้ายไปป้ายบอลเข้าเขตโทษให้เคล็บเข่นอย่างถนัดถนี่ถูกฮูเปียเข้าบล็อคได้อย่างเฉียดฉิว
อาร์เซน่อลพยายามขยับเกมรุก แต่เจ้าถิ่นบีบพื้นที่ได้ดีไม่เปิดช่องให้ลุยขึ้นมาง่ายๆ กระทั่งนาทีที่ 63 เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ก็สบโอกาสโฉบเข้าเกี่ยวบอลในเขตโทษด้านขวาหนีมาร์ติน สเคอร์เทลได้ แต่จังหวะสุดท้ายยิงมุมแคบเข้าข้างตาข่ายอย่างน่าเสียดาย
ในที่สุดนาทีที่ 69 สิ่งที่แฟนหงส์ต้องการก็อุบัติขึ้นจนได้จากลูกที่วางยาวมาจากแดนหลังแล้วบอลตกพื้นกระดอนเข้าเขตโทษด้านซ้าย ตอร์เรสจึงโชว์ความร้ายกาจโยกหนีเซ็นเดรอสแล้ววอลเลย์จากระยะ 16 หลาเข้าเสียบเสาไกลอย่างเฉียบขาดโดยที่อัลมูเนียไม่ต้องขยับทำให้เร้ด แมชีนแซงนำเป็น 2-1
อาร์เซน่อลเปลี่ยนตัวสู้ทันทีในนาทีที่ 71 โดยปล่อยฟาน เพอร์ซี่กับธีโอ วัลค็อตต์ลงไปแทนดิยาบี้กับเอบูเอ้ และเกือบตีเสมอได้ทันควันเมื่ออเดบายอร์ตามไปแปลูกส้มหล่นในเขตโทษสวนทางโฆเซ่ เรน่าได้แล้ว แต่บอลกลิ้งเฉี่ยวกรอบประตูออกไป
นาที 84 ปืนโตได้ประตูตีเสมอ 2-2 จากจังหวะที่ธีโอ วัลค็อตต์ กระชากบอลหนีนักเตะเจ้าถิ่นจากแดนตัวเองไปจนถึงกรอบโทษแล้วเปิดเข้ากลางให้เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ แปโล่งๆตรงจุดโทษตุงตาข่าย
แฟนทีมเยือนดีใจได้ไม่นานเมื่อนาทีต่อมาหงส์แดงมาได้ประตูออกนำ 3-2 จากจังหวะที่ไรอัน บาเบิ้ล พาบอลเข้ากรอบโทษแล้วโดนโคโล ตูเร่ดึงล้มลงผู้ตัดสินชาวสวีเดนเป่าเป็นจุดโทษทันทีและเป็นสตีเว่น เจอร์ราร์ด รับหน้าที่สังหารไม่พลาด
ช่วงท้ายเกมทีมปืนใหญ่ฮึดบุกเต็มกำลัง แต่รูปเกมไม่ไหลเท่าที่ควร กระทั่งช่วงทดเจ็บไรอัน บาเบิ้ลสำแดงเดชด้วยการกระชากบอลผ่าน เชส ฟาเบรกาส เข้าไปยิงประตูตอกฝาโลงให้เจ้าบ้านถล่มเอาชนะไปด้วยสกอร์ท่วมท้น 4-2 รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล เข้ารอบด้วยประตูรวม 5-3 เข้าไปรอเจอคู่เชลซีในรอบต่อไป
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า - เจมี่ คาร์ราเกอร์, ซามี่ ฮูเปีย, มาร์ติน สเคอร์เทล, ฟาบิโอ ออเรลิโอ - เดิร์ค เค้าท์, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, ชาบี อลอนโซ่, สตีเว่น เจอร์ราร์ด (กัปตัน ทีม) - เฟร์นานโด ตอร์เรส, ปีเตอร์ เคร้าช์
สำรอง : ชาร์ลส์ อิต็องด์เช่ (ผู้รักษาประตู), ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่, อังเดร โวโรนิน, ยอสซี่ เบนายูน, อัลบาโร่ อาร์เบลัว, ไรอัน บาเบิ้ล, ลูกัส เลว่า
อาร์เซน่อล : มานูเอล อัลมูเนีย - โคโล ตูเร่, วิลเลี่ยม กัลลาส (กัปตันทีม), ฟิลิปป์ เซนเดอรอส, กาแอล กลิชี่ - เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, เชสก์ ฟาเบรกาส, มาติเยอ ฟลามินี่, อาบู ดิยาบี้ - อเล็กซานเดอร์ เคล็บ - เชยี่ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์
สำรอง : เยนส์ เลห์มันน์ (ผู้รักษาประตู), โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, อเล็กซ็องดร์ ซง, จิลแบร์โต้ ซิลวา, นิคลาส เบนด์ทเนอร์, จัสติน ฮอยต์, ธีโอ วัลค็อตต์
ผู้ตัดสิน : ปีเตอร์ ฟรอจด์เฟลดต์ (สวีเดน)

ไม่มีความคิดเห็น: