วันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2551

ศึกแดงเดือดผีฟอร์มหรู! ไล่ต้อนหงส์10ตัวยับ3-0


ศึกแดงเดือดผีฟอร์มหรู! ไล่ต้อนหงส์10ตัวยับ3-0
"ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โชว์ฟอร์มสุดเฉียบ หลังเปิดรัง โอลด์ แทร๊ฟฟอร์ด ทำศึก "วันแดงเดือด" กับคู่อริ ลิเวอร์พูล ก่อนเป็นฝ่ายไล่ถล่มทีม "หงส์แดง" ไปแบบขาดลอย 3-0 เวส บราวน์,คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ หลุยส์ นานี่ แบ่งซัดคนละตุง ขณะที่ ฮาเบียร์ มาสเคราโน่ ของทีมเยือน โดนไล่ออกตั้งแต่ท้ายครึ่งแรก
แมนฯยูไนเต็ด 3 - ลิเวอร์พูล 0
"ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดรัง โอลด์ แทร๊ฟฟอร์ด ทำศึก "วันแดงเดือด" กับ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล งานนี้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามโดยมี เวย์น รูนี่ย์ ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า ขณะที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้, พอล สโคลส์, ไรอัน กิ๊กส์, ไมเคิ่ล คาร์ริก และ อันแดร์สัน อยู่กันครบ ขณะที่ คาร์ลอส เตเวซ นั่งสำรอง
ฝั่งทีมเยือนก็สมบูรณ์เช่นกันนำมาโดย เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่กำลังร้อนแรงมี ไรอัล เบเบิ้ล กับ เดิร์ค เค้าท์ อยู่ในแนวรุกด้วย
ออกสตาร์ต 6 นาที แมนฯยูไนเต็ด ได้ลุ้นก่อนเมื่อ อันแดร์สัน จ่ายทะลุให้ เวย์น รูนี่ย์ หลุดเข้าไปยิงในเขต แต่เสียหลักนิดหน่อยเพราะมี เจมี่ คาร์ราเกอร์ บี้อยู่ทำให้ รูนี่ย์ ยิงไปติดเซฟของ โฆเซ่ เรน่า
หลังจากนั้น 7 นาที ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นบ้างเมื่อ อัลวาโร่ อาร์เบลัว หลุดไปทางซ้ายสวยเหลือเกิน แต่กึ่งยิงกึ่งผ่านไม่ดีเอาซะเลย บอลผ่านหน้าประตูไปแบบน่าเสียดาย โดยก่อนหน้านั้น ฮาเบียร์ มาสเคราโน่ รับใบเหลืองเป็นคนแรกจากการไม่ยอมรับการตัดสินของ สตีฟ เบนเนตต์
ผ่านไปถึงกลางครึ่งแรก แมนฯยูไนเต็ด น่าได้เหลือเกินเมื่อได้ฟรีคิกทางขวา ไรอัน กิ๊กส์ โยนเข้าไปที่เสาสอง มี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่หลุดไปยิงเผาขน บอลชนเสากระดอนออกไปน่าเสียดาย
หงส์แดง ก็ได้ลุ้น น.26 เมื่อ สตีเว่น เจอร์ราร์ด สับไกจากระยะ 25 หลาแฉลบหลังผู้เล่น แมนฯยูไนเต็ด ข้ามคานแบบสุดเสียว
แล้วก็เป็นเจ้าถิ่นที่ทำประตูขึ้นนำ น.34 จาก เวย์น รูนี่ย์ ที่โยนบอลทางซ้ายให้ เวส บราวน์ กระโดดเช้าชาร์จโดนหลังในกรอบ 6 หลาบอลสวนทาง เรน่า เข้าประตูไป แมนฯยูไนเต็ด นำ 1-0
ก่อนหมดครึ่งแรก 5 นาที แมนฯยูฯ เกือบได้อีก เมื่อ รูนี่ย์ ได้โหม่งกดลงพื้นไม่ถึง 10 หลา แต่ตรงตัวของ เรน่า จากนั้นไม่นาน เรน่า ขว้างบอลไม่ดูตาม้าตาเรือโดน อันแเดร์สัน ตัดได้แล้วยิงสวน 35 หลาโด่งข้ามคานออกไป
ก่อนหมดเวลานาทีเดียว ลิเวอร์พูล ต้องเหลือ 10 คนเมื่อ ฮาเบียร์ มาสเคราโน่ อารมณ์เสียวิ่งเข้าไปต่อว่าต่อขาน สตีฟ เบนเนตต์ จึงทำให้โดนชักใบเหลืองที่ 2 กลายเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามแบบไม่น่าโดน หมดครึ่งแรก แมนฯยูไนเต็ด นำ 1-0
ครึ่งหลังทั้งสองทีมไม่มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่น เริ่มเขี่ยบอลได้นาทีเดียว แมนฯยูฯ เกือบได้เม็ดที่ 2 เมื่อ โรนัลโด้ หลุดไปกระดกบอลในเขตโทษ แต่ติดเซฟของ เรน่า ซะก่อน น.53 แมนฯยูไนเต็ด ได้ฟรีคิกทางซ้าย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ วิ่งเข้าไปอัดด้วยขวา บอลผ่านกำแพงและถากเสาออกไปน่าเสียดาย
แมนฯยูไนเต็ด พลาดโอกาสทองเมื่อ รูนี่ย์ หลุดไปดูดบอลในเขตโทษก่อนจะยิงเหน่งๆ แต่ไปติดเซฟของ โฆเซ่ เรน่า ซะได้
ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นตีเสมอ น.71 จากลูกยิงไกลตามสไตล์ของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ทว่าบอลก็หลุดกรอบออกไปหลายหลา จากนั้นไม่นาน แมนฯยูฯ ได้ลุ้นจาก รูนี่ย์ ที่จ่ายให้ อันแดร์สัน ยิง 30 หลาโด่งออกไปไกล ถึงตรงนี้ แมนฯยูฯ เปลี่ยน 2 คนโดยเอา อันแดร์สัน กับ ไรอัน กิ๊กส์ ออก แล้วส่ง คาร์ลอส เตเวซ กับ หลุยส์ นานี่ ลงไป
คาร์ลอส เตเวซ ลงไปไม่กี่วินาทีโดนบอลครั้งแรกก็ได้ยิงเลย จากระยะไม่ถึง 10 หลา แต่ เรน่า โชว์ซูเปอร์เซฟป้องกันได้อีกเช่นเคย
ก่อนหมดเวลา 11 นาทีเจ้าถิ่นก็ได้ประตูที่ 2 จนได้เมื่อได้เตะมุม คาร์ริก โยนเข้าไปให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ โหม่งเผาขนเข้าประตูไป แมนฯยูไนเต็ด นำ 2-0
จากนั้นอีก 2 นาทีสกอร์ก็ไหลอีก รูนี่ย์ จ่ายเข้าช่องให้ หลุยส์ นานี่ แตะหนึ่งจังหวะแล้วยิงจากนอกเขตทันที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นำ 3-0
แมนฯยูไนเต็ด ครองเกมเอาไว้ได้หมด ครบ 90 นาทีจึงเป็นฝ่ายเอาชนะ ลิเวอร์พูล ไปสบายๆ 3-0 เก็บ 3 คะแนนเต็มนำเป็นจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกต่อไป
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
แมนฯยูไนเต็ด : เอ๊ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, เวส บราวน์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, พอล สโคลส์, ไมเคิ่ล คาร์ริกส์, โอลิเวร่า อันแดร์สัน (คาร์ลอส เตเวซ น.73), ไรอัน กิ๊กส์ (หลุยส์ นานี่ น.73), เวย์น รูนี่ย์
สำรองไม่ได้ใช้ : โทมัส คูซแซ็ค, โอเว่น ฮาร์กรีฟส์, จอห์น โอเชีย
ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ มานูเอล เรน่า, อัลวาโร่ อาร์เบลัว, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, ฟาบิโอ ออเรลิโอ, ฮาเบียร์ มาสเคราโน่, ชาบี อลอนโซ่, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, เคิร์ก เค้าท์, ไรอัน เบเบิ้ล (ยอสซี่ เบนายูน น.66), เฟร์นานโด ตอร์เรส (ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ น.83)
สำรองไม่ได้ใช้ : ชาร์ลส์ อิต็องเช่, ซามี่ ฮูเปีย, ปีเตอร์ เคร้าช์
ผู้ตัดสิน : สตีฟ เบนเนตต์

ไม่มีความคิดเห็น: